ซีพี ออลล์ พาชม “ทับสะแก กรีนคาเฟ่ รักษ์โลก” ร้านกาแฟกรีนดีไซน์จากวัสดุอัปไซเคิล
ต่อยอดความสำเร็จการสร้างเครือข่ายจัดการขยะ สู่โมเดลหนุนรายได้โรงเรียน-ชุมชนยั่งยืน
ซีพี ออลล์ เดินหน้าสนับสนุนโรงเรียนภายใต้ CONNEXT ED ต่อเนื่อง พาชมโมเดล “ทับสะแก กรีนคาเฟ่ รักษ์โลก” ของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อยอดความสำเร็จโรงเรียนตัวท็อปด้านการจัดการขยะ สู่การสร้างร้านกาแฟกรีนดีไซน์จากวัสดุรีไซเคิล-อัปไซเคิล อาทิ หลังคาจากกล่องนม โต๊ะเก้าอี้จากถุงนม เคาน์เตอร์ร้านจากเยื่อกระดาษ พร้อม Green Equipment และ Green Packaging ใช้วัสดุเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม-ภาชนะย่อยสลายได้ หวังเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนด้านการจัดการขยะ สร้างรายได้-สร้างทักษะอาชีพกลับสู่โรงเรียน-ชุมชนอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความสำเร็จการสร้างอีโคซิสเท็มเครือข่ายจัดการขยะ เตรียมขยายโมเดลกรีนคาเฟ่ กรีนทอยเล็ท กรีนฟิลด์ สู่ทุกภูมิภาค
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เดินหน้าสนับสนุนการยกระดับคุณภาพการจัดการการศึกษาไทย ผ่านการสนับสนุนงบประมาณ องค์ความรู้ และเครื่องมือที่จำเป็นให้แก่โรงเรียนภายใต้มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED จำนวนมากกว่า 563 โรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้ให้การสนับสนุนโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โรงเรียนระดับท็อปที่โดดเด่นด้านการบูรณาการหลักสูตรการศึกษาเข้ากับการจัดการขยะในโรงเรียนภายใต้โครงการต้นกล้าไร้ถัง ต่อยอดสู่โครงการใหม่ “ทับสะแก กรีนคาเฟ่ รักษ์โลก” พัฒนาร้านกาแฟกรีนดีไซน์ที่ใช้วัสดุรีไซเคิล-อัปไซเคิลในการออกแบบตกแต่งร้าน รวมถึงใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและภาชนะย่อยสลายได้
“ที่ผ่านมา โครงการต้นกล้าไร้ถังของอนุบาลทับสะแก โดดเด่นมาก เพราะตัวโมเดลสามารถลดขยะจากเดือนละ 15 ตัน เหลือเพียง 2 กิโลกรัมต่อเดือน จนกลายเป็นโมเดลที่เราเข้าไปช่วยขยายผลสู่กว่า 750 โรงเรียนทั่วประเทศ วันนี้ทั้งเราและโรงเรียนต่างมองเห็นโอกาสที่จะทำให้การจัดการขยะเป็นรูปธรรมมากขึ้น เราจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตร สร้างสรรค์ให้เกิดทับสะแก กรีนคาเฟ่ รักษ์โลก เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้คนเห็นภาพได้ชัดเจนว่าการจัดการขยะ การรีไซเคิล อัปไซเคิล สร้างประโยชน์อย่างไรบ้าง และเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้บ่มเพาะมุมมองวิชาชีพการทำร้านกาแฟ ฝึกทักษะอาชีพให้แก่เยาวชน พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้โรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายตรีเทพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ประธานคณะทำงานโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทับสะแก กรีนคาเฟ่ รักษ์โลก ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ บนถนนที่ว่าการอำเภอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พัฒนาขึ้นภายใต้ แนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม (Green Concept) 5 ด้าน ได้แก่
1.Green Design การออกแบบร้านให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ ให้ลมโกรกผ่านประตูหน้าต่างได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ พร้อมดีไซน์ประตูหน้าต่างเปิดมุมมองโดยรอบให้แสงสว่างส่องผ่านทั่วถึงลดการใช้ไฟฟ้าแสงสว่างและใช้แสงจากธรรมชาติแทน
2.Green Material & Equipment การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล อาทิ หลังคาและกระเบื้องผนังทำจากการอัปไซเคิลกล่องนมยูเอชที เคาน์เตอร์ชงเครื่องดื่มที่ปูด้วยแผ่นไม้อัปไซเคิลจากเยื่อกระดาษ ส่งผลให้ภาพรวมร้านทำจากวัสดุรีไซเคิล อัปไซเคิลมากกว่า 30% ขณะเดียวกัน ยังได้นำโต๊ะเก้าอี้จากกระดาษรีไซเคิล และโต๊ะเก้าอี้ที่อัปไซเคิลจากถุงนม มาใช้ในการตกแต่งร้าน อีกทั้งยังเลือกใช้อุปกรณ์ภายในร้านที่เป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ประหยัดไฟ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3.Green Food Good Taste ออกแบบเมนูที่ใส่ใจต่อสุขภาพ รสชาติดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีเอกลักษณ์จากท้องถิ่น เช่น การนำมะพร้าว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาทำเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ทั้งกลุ่มเบเกอรี่และเครื่องดื่ม อาทิ ชิฟฟ่อนมะพร้าว บ้าบิ่นมะพร้าว วาฟเฟิลมะพร้าว น้ำมะพร้าว คาเฟ่โคโค่นัทมิลค์
4.Green Packaging เลือกใช้ภาชนะ อาทิ แก้ว จาน ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ (Compostable) ไม่ใช่แค่สลายตัวได้ (Degradable) โดยนำภาชนะเหล่านี้บางส่วนจากโรงเรียน CONNEXT ED ที่ดำเนินการผลิตภาชนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น สายคล้องหูหิ้วแก้วกาแฟจากต้นกก หลอดกระดาษ
5.Green People เปิดทางให้นักเรียนที่มีใจรักสิ่งแวดล้อม และผ่านหลักสูตรต้นกล้าไร้ถัง เข้ามามีโอกาสเรียนรู้ทักษะการบริหารร้านกาแฟทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ พร้อมทั้งช่วยเป็นกระบอกเสียง ส่งเสริมให้ร้านกาแฟกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการขยะ เป็นทั้งสถานที่พักผ่อนอย่างมีไลฟ์สไตล์ และส่งเสริมองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ขณะที่ตัวร้านมีขนาดพื้นที่ประมาณ 72 ตร.ม. แบ่งเป็นพื้นที่โซนอินดอร์ ประมาณ 24 ตร.ม. และโซนเอาท์ดอร์ ประมาณ 48 ตร.ม.
“เราเข้ามาช่วยสนับสนุนทั้งงบประมาณ องค์ความรู้ อุปกรณ์ รวมถึงได้เครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชนในภาคีเครือข่ายต้นกล้าไร้ถังหลายรายเข้ามาช่วยสนับสนุน อาทิ ยูนิลีเวอร์, เอส ไอ จี คอมบิบล็อค, เทคแคร์โซลูชั่น, เอสซีจี เคมิคอลส์ และ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จนทำให้เกิดร้านกาแฟแฟล็กชิพแห่งแรกขึ้นได้ เรามีวิสัยทัศน์จะขยายผลออกไปอย่างน้อยภูมิภาคละ 1 แห่ง รวมถึงมีแนวคิดจะทำ Green Toilet และ Green Field กับโรงเรียนต่างๆ เพิ่มเติมด้วย” นายตรีเทพ กล่าว
ด้านนักเรียนชั้น ป.5/2 ที่มีหัวใจจิตอาสาและรักสิ่งแวดล้อม “น้องพี” ด.ช.พีรวิชญ์ มีชูเกตุ และ “น้องภูผา” ด.ช.ปิยกร จิตจำนง บอกด้วยความกระตือรือร้นว่า เป็นเพื่อนสนิทที่สนใจงานคหกรรมและงานบริการมากๆ จึงอาสาเข้ามาช่วยงานที่ร้าน ทับสะแก กรีนคาเฟ่ รักษ์โลก โดยจะมาช่วยในส่วนของการชงเครื่องดื่ม และบริการเสิร์ฟ ในช่วงพักเที่ยงและตอนเย็นหลังเลิกเรียน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครอง ครู และเพื่อนๆ พี่ๆ นักเรียนในโรงเรียน สิ่งที่ได้จากการมาเป็นจิตอาสา คือ ได้เรียนรู้ระบบการจัดการร้านกาแฟ และได้เห็นว่าขยะต่างๆ ที่พวกเราช่วยกันคัดแยก นำมาอัปไซเคิลเป็นโต๊ะ เก้าอี้ เคาเตอร์ ได้ออกมาดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ ตอนนี้อยากช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น แล้วมีคนต่างถิ่นมาเรียนรู้ร้านแฟรักษ์โลกของเราเยอะๆ ครับ
สำหรับ “โครงการต้นกล้าไร้ถัง” เป็นการนำโมเดลการจัดการขยะแบบ “ทับสะแกโมเดล” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการลดปริมาณขยะจาก 15 ตัน/เดือนเหลือเพียง 2 กิโลกรัม/เดือน ปลูกฝังเยาวชนให้มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะ รียูส รีไซเคิล อัพไซเคิล และมีส่วนร่วมคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางภายในโรงเรียน รวมทั้งสร้างรายได้จากการคัดแยกขยะ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนหันมาคัดแยกขยะอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นำสิ่งที่เป็นวัสดุอินทรีย์ วัสดุรีไซเคิล ส่งต่อไปยังหน่วยงานและกระบวนการจัดการขยะที่เหมาะสม สร้างรายได้กลับเข้าสู่โรงเรียนและชุมชน และทำให้โรงเรียนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เพื่อส่งต่อองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะไปยังชุมชนใกล้เคียงโรงเรียน ปลูกฝังให้คนในท้องถิ่นร่วมคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยทางภาคีจะสนับสนุนงบประมาณ และองค์ความรู้ มีคู่มือการดำเนินงาน การจัดฝึกอบรม การลงพื้นที่ และการติดตามผลอย่างใกล้ชิด
สำหรับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) และเป็น 1 ใน 47 องค์กรเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญและตอบรับการมีส่วนร่วมทางการศึกษา โดยขับเคลื่อนโครงการตามปณิธานองค์กร “Giving & Sharing” วางเป้าดูแลโรงเรียนในโครงการ CONNEXT ED พร้อมทั้งร่วมสนับสนุนโรงเรียนให้สามารถดำเนินโครงการด้านต่างๆ ทั้งโครงการที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ โครงการพัฒนาคุณภาพคน โครงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โครงการส่งเสริมอาชีพ โครงการด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partner ซึ่งเป็นอาสาสมัครจากในองค์กรร่วมลงพื้นที่และคอยให้คำแนะนำในการพัฒนาโครงการของโรงเรียนต่างๆ อย่างใกล้ชิด