การกำกับดูแลกิจการ

การกำกับดูแลกิจการ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2566


ได้รับการประเมิน ระดับดีเลิศ (Excellence) หรือ ระดับ 5 ดาว จากการเปิดเผยรายงานกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนโดยสมาคมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่อยู่ในบัญชีหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings และได้รับรางวัล SET Awards ในกลุ่มรางวัล Sustainability Excellenct ประเภท Highly Commended in Sustainability Awards ของบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดขนาด 100,000 ล้านบาทขึ้นไป ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

ผลการประเมินการปฏิบัติงานของคณะกรรมการทั้งคณะอยู่ในระดับดีเยี่ยม การประเมินรายบุคคลอยู่ในระดับดีเยี่ยม

ยกระดับคุณภาพสมาชิก CAC เป็น Change Agent ขยายเครือข่ายธุรกิจโปร่งใสไปยังบริษัทคู่ค้ากลุ่ม SMEs โดยการสนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย เข้าร่วมเป็นสมาชิก CAC ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

ได้รับรางวัล Anti-Curruption Awards 2566 รางวัลส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริม
ธรรมาภิบาลประจำปี 2566 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

ร้อยละ  100

ของพนักงานทุกระดับได้รับการอบรม ทบทวน และผ่านการทดสอบหลักสูตรธรรมาภิบาลและการต่อต้านทุจริต การพัฒนาความยั่งยืน การบริหารความเสี่ยงด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

ร้อยละ  100

ของคู่ค้าลำดับที่ 1 และสโตร์พาร์ตเนอร์ (ผู้ได้รับสิทธิ์ในการบริหารร้าน 7-Eleven) ได้รับการสื่อสารคู่มือจริยธรรมและแนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้า

ได้รับการรับรอง ISO 27701 มาตรฐานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (ส่วนขยายจาก ISO/IEC 27001 มาตรฐานจัดการความปลอดภัยของข้อมูล) ในขอบเขตการซื้อขายสินค้าผ่าน 24Shopping และระบบการบริหารงานบุคคล

ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากการจัดการความปลอดภัยไซเบอร์ (Security Rating) จากบริษัทภายนอก ที่ระดับ Advanced

ได้รับการประเมินจากโครงการวัดระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับกลุ่มบริษัทจดทะเบียน (Cybersecurity Resilience Survey 2556) ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผลประเมินอยู่ที่ระดับ 4 (Cybersecurity Level 4-Measured) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

การดำเนินงานที่สำคัญปี 2566


สนับสนุนและยกระดับการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่สอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบ โดยให้คำปรึกษา และการวางแผนสร้างระบบการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Management System) เพื่อติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ของบริษัทให้ปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

จัดอบรมหลักสูตรชุดความรู้ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านธรรมาภิบาลและการต่อต้านทุจริต รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมวัดระดับความรู้หลังจบการอบรมให้แก่พนักงานทุกระดับผ่านระบบ E-Learning

จัดทำนโยบายกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎบัตรของฝ่ายกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย ปรับปรุงทะเบียนกฎหมายที่สำคัญของบริษัท รวมถึงพัฒนาระบบ IT ระบบการตรวจสอบและรายงานผล




ขยายขอบเขตการนำเอามาตรฐานข้อมูลสารสนเทศ และระบบบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (ISO 27001 และ ISO 27701) มาประยุกต์ใช้กับ 24Shopping ในขอบเขตการซื้อขายสินค้าผ่าน 24Shopping และระบบการบริหารงานบุคคล เพิ่มเติมจากส่วนงานระบบสมาชิก (ALL Member) และการจัดการศูนย์คอมพิวเตอร์ธาราพาร์ค (IT Data Center)

ส่งเสริมให้ SMEs ประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมเป็นสมาชิก CAC



จำลองเหตุการณ์ทดสอบพนักงานต่อการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Phishing Test) 4 ครั้งต่อปี

จำลองเหตุการณ์ทดสอบแผนตอบสนองเหตุการณ์ละเมิดความปลอดภัยไซเบอร์และข้อมูลรั่วไหล (Incident Response Plan) 2 ครั้งต่อปี

เข้าร่วมโครงการวัดระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับริษัทจดทะเบียน ปี 2566


ทำการค้นหาช่องโหว่ และประเมินความปลอดภัยข้อมูลและไซเบอร์ของทุกระบบบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตผ่านการทำโดยบริษัทภายนอก

ผู้มีส่วนได้เสียหลักที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ


สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน


SDG 12 สร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการบริโภค และผลิตที่ยั่งยืน

12.6 สนับสนุนให้บริษัท โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติและบริษัทขนาดใหญ่ รับแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนไปใช้และผนวกข้อมูลด้านความยั่งยืนลงในวงจรการรายงานของบริษัทเหล่านั้น

SDG 16 ส่งเสริมสังคมที่สงบสุขและครอบคลุมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้ทุกคนเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมแก่ทุกคน

16.3 ส่งเสริมนิติธรรมทั้งในระดับชาติและระหว่างประเทศ และสร้างหลักประกันว่าจะมีการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมแก่ทุกคน
16.5 ลดการทุจริตในตำแหน่งหน้าที่และการรับสินบนทุกรูปแบบ
16.7 สร้างหลักประกันว่าจะมีกระบวนการตัดสินใจทีี่มีความรับผิดชอบ ครอบคลุม มีส่วนร่วมและมีความเป็นตัวแทนที่ดี ในทุกระดับการตัดสินใจ

ผลการดำเนินงานเทียบเป้าหมาย


เป้าหมายปี 2573

ได้รับการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ (Excellence) โดยสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

ความคืบหน้าเทียบกับเป้าหมาย

สรุปผลการดำเนินงาน ปี 2566

องค์ประกอบคณะกรรมการบริษัท

คณะกรรมการบริษัท

16  คน

เพศชาย

15  คน

เพศหญิง

1  คน

ระยะเวลาดำรงตำแหน่งเฉลี่ย

16  ปี

กรรมการที่เป็นผู้บริหาร

5  คน

กรรมการอิสระ

6  คน

กรรมการที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหาร

5  คน

การอบรมและสื่อสารด้านธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริต

พนักงาน ซีพี ออลล์

ได้รับการสื่อสาร

87490  คน

ลงนามรับทราบ

87490  คน

ได้รับการฝึกอบรม

87490  คน

พนักงาน บริษัทย่อย

ได้รับการสื่อสาร

7544  คน

ลงนามรับทราบ

7544  คน

ได้รับการฝึกอบรม

7544  คน

คู่ค้าลำดับที่ 1

ได้รับการสื่อสาร

2242  ราย

ลงนามรับทราบ

2242  ราย

ได้รับการฝึกอบรม

2242  ราย

จำนวนการทุจริต

อัตราการเกิดการทุจริตร้าน 7-Eleven เฉลี่ยต่อร้านต่อปี


จำนวนการทุจริต จำแนกตามพื้นที่

ร้าน 7-Eleven

ร้อยละ  98.70

ศูนย์กระจายสินค้า

ร้อยละ  0

สำนักงาน

ร้อยละ  0.01

บริษัทย่อย

ร้อยละ  0.92

ข้อร้องเรียนการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าผิดจริง

ข้อมูลลูกค้า

0  กรณี

ข้อมูลคู่ค้า

0  กรณี

หน่วยงานกำกับดูแล

0  กรณี

ความเสี่ยงและโอกาส


การกำกับดูแลกิจการที่ดี ถือเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนบริษัทให้บรรลุเป้าหมายและเจตนารมณ์ขององค์กรที่ต้องการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีปัจจัยสำคัญในการดำเนินงาน คือ คณะกรรมการซึ่งมีบทบาทในการควบคุมและติดตามการดำเนินงานขององค์กรให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ปราศจากทุจริต คำนึงถึงคุณธรรม จริยธรรม และสิทธิมนุษยชน ควบคู่กับการบูรณาการด้านความยั่งยืน โดยประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการจะขึ้นอยู่กับความเป็นอิสระของสมาชิก รวมถึงความหลากหลายทั้งในแง่ของทักษะและภูมิหลัง นอกจากนี้ การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ผ่านการกำกับดูแลกิจการที่ดี จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงช่วยยกระดับความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อองค์กรและดึงดูดความสนใจของนักลงทุน และเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปสู่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน พร้อมกันนี้ การพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและการกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับการสื่อสารและสร้างความเข้าใจแก่พนักงานทุกระดับให้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สามารถลดความเสี่ยงเกี่ยวกับประเด็นการละเมิดกฎหมายและสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจได้

แนวทางการดำเนินงาน


บริษัทจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาลขององค์กร ทำหน้าที่กำหนดและทบทวนนโยบายการกำกับดูแลกิจการ นโยบายความยั่งยืน นโยบายด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงจริยธรรมธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับหลักบรรษัทภิบาลของหน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมายและแนวปฏิบัติสากล พร้อมทั้งจัดอบรมหลักสูตรการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านธรรมาภิบาลและการต่อต้านทุจริต รวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมแบบทดสอบความรู้หลังจบการอบรม และมุ่งส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่พนักงานทุกระดับ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการดำเนินงานที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล และก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและโปร่งใส เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี

นอกจากนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจตามแนวทางการปฏิบัติงานตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยยึดหลักจริยธรรมธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน (Business Ethics and Code of Conduct) ซึ่งเป็นแนวทางในการดำเนินงานและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดหลักนิติธรรม มีความโปร่งใส ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่มีการเรียกรับหรือจ่ายสินบน ไม่มีการขัดแย้งทางผลประโยชน์ และไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการล่วงละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือลิขสิทธิ์ของผู้อื่น รวมถึงคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

1 ตระหนักถึงบทบาท และความรับผิดชอบในฐานะผู้นำที่สร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างยั่งยืน


2 กำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายหลักของกิจการที่เปลี่ยนไปเพื่อความยั่งยืน


3 เสริมสร้างคณะกรรมการที่มีประสิทธิผล


4 สรรหาและพัฒนาผู้บริหารระดับสูงและการบริหารบุคคล


5 เสริมสร้างนวัตกรรมและการประกอบธุรกิจ


6 ดูแลให้มีระบบการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่เหมาะสม


7 รักษาความน่าเชื่อถือทางการเงินและการเปิดเผยข้อมูล


8 สนับสนุนการมีส่วนร่วม และการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น

ประเด็นด้านความยั่งยืนที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานการลงทุน

1. สิ่งแวดล้อม

- การจัดการทรัพยากร
- ลดการปล่อยก๊าซเรือกกระจก
- อุบัติการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม
- การบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

2. สังคม

- สิทธิมนุษยชน
- สร้างความสัมพันธ์กับชุมชน
- การตรวจสอบห่วงโซ่อุปทาน

3. ธรรมาภิบาล

- ค่าตอบแทนผู้บริหาร
- สิทธิของผู้ถือหุ้น
- ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
- วิสัยทัศน์

นโยบายการกำกับดูแลกิจการของ ซีพี ออลล์

สิทธิของผู้ถือหุ้น

การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม

บทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส

ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

การบริหารความเสี่ยง

จริยธรรมและจรรยาบรรณทางธุรกิจ

นโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน

การดูแลใช้ข้อมูลภายในและการควบคุมและตรวจสอบภายใน

โครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ

คณะกรรมการชุดย่อย

บริษัทแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยดำเนินงานอย่างอิสระภายใต้ความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท ซึ่งมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญ

คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ
  • สอบทานงบการเงิน
  • สอบทานการดำเนินงานให้ถูกต้องตามนโยบาย ระเบียบข้อบังคับ กฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ และข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล
  • สอบทานให้มีระบบการควบคุมภายในที่ดีรวมถึงระบบตรวจสอบภายใน และระบบบริหารความเสี่ยงให้รัดกุม
  • หารือร่วมกับผู้สอบบัญชีในเรื่องเกี่ยวกับงบการเงิน และการควบคุมภายใน
  • พิจารณารายการที่เกี่ยวโยงกันหรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์
  • รายงานผลสรุปการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องและให้คำปรึกษาข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการบริษัท
    ปีละ 4 ครั้ง
  • จัดทำนโยบายการกำกับดูแลกิจการ นโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน นโยบายความยั่งยืน และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจริยธรรมธุรกิจและข้อพึงปฏิบัติในการทำงาน
  • ทบทวนนโยบายที่เกี่ยวข้องให้มีความต่อเนื่องและเป็นปัจจุบันอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง
  • กำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้บริหารและพนักงานให้เป็นไปตามนโยบายที่เกี่ยวข้อง
  • สอบทานและประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบายร่วมกับกรรมการและฝ่ายจัดการ
  • รายงานผลสรุปผลการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องและให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการบริษัท
    ปีละ 2 ครั้ง
  • พิจาณาหลักเกณฑ์ในการจ่ายและรูปแบบค่าตอบแทนของคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง พร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการบริษัท โดยคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้อนุมัติค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูง ส่วนค่าตอบแทนของคณะกรรมการคณะกรรมการบริษัทเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เป็นผู้อนุมัติเป็นประจำทุกปี
  • ประเมินค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงให้สอดคล้องกับผลปฏิบัติงาน
  • พิจารณาหลักเกณฑ์และกระบวนการในการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริษัท
  • คัดเลือกบุคคลตามกระบวนการสรรหาที่กำหนดไว้ รวมถึงบุคคลที่เสนอผู้ถือหุ้นรายย่อย
  • เสนอความเห็นต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เป็นผู้แต่งตั้งกรรมการ

โครงสร้างคณะกรรมการบริษัท

บริษัทกำหนดให้มีคณะกรรมการบริษัทจำนวน 16 ราย ประกอบด้วยกรรมการที่เป็นผู้บริหารจำนวน 5 ราย กรรมการที่เป็นอิสระจำนวน 6 ราย และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารจำนวน 5 ราย นอกจากนี้บริษัท มอบอำนาจในการดำเนินงานโดยแบ่งแยกอำนาจการดำเนินงานระหว่างประธานกรรมการ (Chairman) และประธานกรรมการบริหาร (Chairman of Executive Committee: CEC) ไว้อย่างชัดเจนและไม่เป็นบุคคลเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยข้อมูลความรู้ ความชำนาญ เฉพาะด้านของคณะกรรมการบริษัทเพื่อแสดงถึงความเชี่ยวชาญ ทักษะ และประสบการณ์ ตลอดจนคุณสมบัติที่เหมาะสมในตำแหน่งกรรมการบริษัทสอดคล้องตามมาตรฐานการจำแนกอุตสาหกรรมระดับโลก (Global Industry Classification Standard: GICS) กลุ่มสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต (Consumer Staples) เพื่อการดำเนินงานตอบสนองต่อกลยุทธ์และเป้าหมายของบริษัท ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการต่อเนื่อง สำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2566

บริษัทได้รับการประเมินการเปิดเผยรายงานการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2566 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors: IOD) โดยมีหลักเกณฑ์การประเมินใน 4 หมวด ได้แก่ 1. สิทธิของผู้ถือหุ้น และการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน 2. การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสียและการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 3. การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และ 4. ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ โดยบริษัทได้รับผลการประเมินในระดับดีเลิศ (Excellence 5) หรือ 5 ดาว และมีคะแนนทุกหมวดสูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทในกลุ่มบริการและบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาด (Market Capitilization) ขนาด 10,000 ล้านบาท ขึ้นไป นอกจากนี้ บริษัทได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มที่มีคะแนนสูงสุด (Top Quality) ของบริษัทที่จดทะเบียนโดยรวมและบริษัทในกลุ่มบริการอีกด้วย

ทักษะที่จำเป็นในการสรรหากรรมการบริษัท

กรรมการของบริษัทฯ มาจากการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด ข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. และข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ มีความหลากหลาย และมีความทุ่มเทและสามารถอุทิศเวลาอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบ มีภาวะผู้นำ โดยบริษัทได้จัดทำตารางความรู้ความชำนาญ เพื่อประกอบการพิจารณาคัดเลือก ดังนี้

ตารางความรู้ความชำนาญ

รายชื่อคณะกรรมการ ความรู้และประสบการณ์ในอุตสาหกรรม ความรู้และประสบการณ์เฉพาะทาง ความสามารถในการกำกับดูแล
ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งและการตลาด วิจัยและพัฒนา บัญชีและการเงิน เศรษฐศาสตร์และธนาคาร แข่งขันระหว่างประเทศ ดิจิทัลด กฎหมายและคดี วางแผนกลยุทธ์ (บริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่) บริหารความเสี่ยง จัดการในภาวะวิกฤติ มั่นคงและสังคม
1. ศ.(พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช              ✔  ✔ ✔ 
2. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์             ✔  ✔  ✔ 
3. นายผดุง เตชะศรินทร์       ✔  ✔  ✔ 
4. นายปรีดี บุญยัง     ✔        ✔    ✔     
5. นางนํ้าผึ้ง วงศ์สมิทธิ์           ✔  ✔     
6. ศ.(พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์   ✔       ✔   ✔     
7. นายสุภกิต เจียรวนนท์       ✔  ✔  ✔ 
8. นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์  ✔       ✔ 
9. นายศุภชัย เจียรวนนท์ ✔  ✔        ✔ 
10. นายธานินทร์ บูรณมานิต ✔  ✔            ✔  ✔ 
11. นายอดิเรก ศรีประทักษ์         ✔  ✔  ✔ 
12. นายอำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์       ✔  ✔   
13. นายณรงค์ เจียรวนนท์      
14. นายประเสริฐ จารุพนิช ✔               
15. นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล         ✔  ✔  ✔   
16. นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ✔   ✔           ✔  ✔ 
  1. บริหารและจัดการองค์กรขนาดใหญ่ รวมการกำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ การบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคล
  2. ธุรกิจและการตลาด รวมการขนส่ง การกระจายสินค้า
  3. ดิจิทัล รวมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี Information Security & Cyber Security
  4. กฎหมายและคดี รวมถึง กฎหมายธุรกิจ กฎหมายหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร
  5. มั่นคงและสังคม รวมถึง สิ่งแวดล้อม ชุมชน ความปลอดภัย
  6. เศรษฐศาสตร์และธนาคาร รวมถึง สถาบันการเงิน สถาบันการลงทุน

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ตาม GICS Level1classification  ของกรรมการอิสระ และกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหาร ได้ที่ —> Board Industry Experience

ทักษะที่จำเป็นในการสรรหาผู้บริหารระดับสูง (CEO,CEO-1,CEO-2)

เพื่อให้องค์กรสามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีการแข่งขันและรักษาการเติบโตขององค์กรให้มีความยั่งยืน บริษัทมีการกำหนดนโยบาย ทักษะที่จำเป็นและมีการดำเนินการเพื่อคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูง รวมถึงมีการจัดทำแผนผู้สืบทอดตำแหน่งมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริหารหรือผู้นำในตำแหน่งสำคัญขององค์กรจะมีผู้สืบทอดตำแหน่ง โดยบริษัทได้กำหนดทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้บริหารระดับสูง ดังนี้

1. ทักษะความเป็นผู้นำ (เสน่ห์) - CPALL Leadership DNA
ความสามารถในการคิด (คิดได้) ความสามารถในการสื่อสาร (พูดเป็น) ความสามารถในการลงมือปฏิบัติ (ทำสำเร็จ) ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น (เข้าใจคน) ความสามารถในการมีโลกทัศน์ (มีโลกทัศน์)
2. คุณลักษะผู้นำ (ศรัทธา) - 11 Leadership
มีความจริงใจ / ไม่ศักดินา / ใช้ปิยะวาจา / อย่าหลงอำนาจ
เป็นแบบอย่างที่ดี /มีความยุติธรรม / ให้ความเมตตา / กล้าตัดสินใจ
อาทรสังคม / บ่มเพาะคนดี / มีใจเปิดกว้าง
3. ความรู้ในอาชีพ (สามารถ) - Knowledge
4. ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ (ประสบการณ์)

กระบวนการสรรหาผู้บริหารระดับสูง (CEO,CEO-1,CEO-2)

บริษัทคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งจาก Talent Pool และประเมินระดับความพร้อมในการขึ้นสู่ตำแหน่งด้วยเครื่องมือต่างๆ ทั้งเครื่องมือทางจิตวิทยา การประเมินด้วยบุคคลต่างๆ รอบด้านและการประเมินศักยภาพความพร้อมในการขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อนำมาจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลและมีการติดตามและรายงานผลความคืบหน้าของการพัฒนาต่อคณะกรรมการบุคคลสายงานและผู้บริหารระดับสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือก มีความพร้อมในการสืบทอดตำแหน่งที่สำคัญขององค์กร

ข้อมูลอื่นๆ


การจัดโครงสร้างการบริหารงานด้านงานกำกับดูแลโดยคณะกรรมการบริษัท

1. คณะกรรมการบริษัท

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 คณะกรรมการของบริษัทมีจำนวนทั้งสิ้น 16 คน ประกอบด้วย กรรมการที่เป็นผู้บริหาร จำนวน 5 คน กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร จำนวน 11 คน ประกอบด้วย กรรมการอิสระจำนวน 6 คน (คิดเป็น 1 ใน 3 ของกรรมการทั้งคณะ) กรรมการที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารงาน จำนวน 5 คน (คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของกรรมการทั้งคณะ)

รายชื่อคณะกรรมการบริษัท

รายชื่อคณะกรรมการบริษัท ตำแหน่ง
1. ศ. (พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช กรรมการอิสระและประธานกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
2. พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์2 กรรมการอิสระ ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
3. นายผดุง เดชะศรินทร์ กรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล และกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ
4. นายปรีดี บุญยัง กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
5. นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธ์ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
6. ศ. (พิเศษ) ดร. กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ กรรมการอิสระ
7. นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ
8. นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์1 รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร
9. นายศุภชัย เจียรวนนท์1 รองประธานกรรมการและกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ
10. นายธานินทร์ บูรณมานิต1 รองประธานกรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร
11. นายอดิเรก ศรีประทักษ์1 กรรมการ
12. นายอำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์1 กรรมการ กรรมการบริหาร และกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
13. นายณรงค์ เจียรนนท์1 กรรมการ
14. นายประเสริฐ จารุพนิช1 กรรมการ
15. นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล1 กรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร
16. นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล1 กรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร
  1. กรรมการลำดับที่ 8-16 เป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทฯ
  2. กรรมการลำดับที่ 2 พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 แทน พล.ต.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ กรรมการอิสระ ที่ลาออกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566

คำนิยาม

  • กรรมการที่เป็นผู้บริหาร หมายถึง กรรมการที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารและมีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารงานประจำของบริษัท
  • กรรมการที่เป็นไม่เป็นผู้บริหาร หมายถึง กรรมการที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการบริหารงานประจำของบริษัท อาจจะเป็นหรือไม่เป็นกรรมการอิสระก็ได้
  • กรรมการอิสระ หมายถึง กรรมการอิสระหรือกรรมการจากภายนอก (Outside Director) และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องการบริหารงานประจำและไม่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท นอกจากนี้ยังต้องมีความเป็นอิสระจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือกลุ่มของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ คุณสมบัติของกรรมการบริษัทฯ สามารถอ้างอิงได้ที่ กฎบัตรคณะกรรมการบริษัท

คณะกรรมการบริษัทมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำกับดูแลกิจการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคม คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ภายใต้นโยบายการกำกับดูแลกิจการและนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชันของบริษัท โดยปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์และข้อบังคับของบริษัท กฎบัตรและแนวปฏิบัติของคณะกรรมการ มติคณะกรรมการ ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น รายละเอียดเพิ่มเติมของคณะกรรมการบริษัท

2. การดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ ในคณะกรรมการชุดย่อย

คณะกรรมการชุดย่อยภายใต้คณะกรรมการบริษัทมี 3 คณะ คือ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการกำกับดููแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล และคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ

คณะกรรมการตรวจสอบ

1. นายผดุง เดชะศรินทร์*ประธานกรรมการตรวจสอบ
2. นายปรีดี บุญยังกรรมการตรวจสอบ
3. นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธ์กรรมการตรวจสอบ

* กรรมการตรวจสอบที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านบัญชีและการเงิน และสามารถทำหน้าที่ในการสอบทานความน่าเชื่อถือของงบการเงิน

คณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล

1. ศ. (พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช*ประธานกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
2. พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์*กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล**
3. นายผดุง เดชะศรินทร์*กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
4. นายอำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล

* เป็นกรรมการอิสระ
** พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 แทน พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ลาออกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566

คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ

1. พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์*ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ**
2. นายผดุง เดชะศรินทร์*กรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ
3. นายศุภชัย เจียรวนนท์กรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ

* เป็นกรรมการอิสระ
* พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 แทน พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ลาออกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566

3. สรุปผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการในรอบปีที่ผ่านมา

การประชุมคณะกรรมการ

  • บริษัทฯ มีการประชุมคณะกรรมการในวาระปกติไตรมาสละ 1 ครั้ง และการประชุมพิเศษเพิ่มเติมตามความจำเป็นและกรรมการบริษัทต้องเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทอย่างสม่ำเสมอเพื่อรับทราบและร่วมตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีการจัดประชุมอย่างน้อยปีละ 7 ครั้ง ตามกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท
  • บริษัทฯ กำหนดไว้ในแนวปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการสำหรับคณะกรรมการบริษัท โดยระบุให้กรรมการแต่ละคนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของการประชุมทั้งปี โดยกำหนดวันประชุมคณะกรรมการอย่างเป็นทางการล่วงหน้าเป็นเวลา 1 ปี เพื่อให้กรรมการสามารถจัดสรรเวลาในการเข้าประชุมได้ อย่างไรก็ตามอาจมีการเรียกประชุมเพิ่มเติมได้หากมีวาระพิเศษต้องขออนุมัติจากกรรมการหรือพิจารณาเรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วน
  • ในปี 2566 บริษัท มีการประชุมคณะกรรมการจำนวน 9 ครั้ง ซึ่งเหมาะสมกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาซึ่งกรรมการบริษัททั้งคณะเข้าร่วมประชุมร้อยละ 94.37 และมีการประชุมคณะกรรมการที่ไม่เป็นกรรมการบริหาร 1 ครั้ง โดยกรรมการเข้าร่วมประชุมจำนวน 9 คน จากทั้งหมด 10 คน คิดเป็นร้อยละ 90
  • บริษัทฯ จัดส่งหนังสือเชิญประชุมและเอกสารประกอบการประชุมโดยมีรายละเอียดครบถ้วนในแต่ละวาระให้กรรมการล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้กรรมการได้มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาตัดสินใจ นอกจากนี้ ในการพิจารณาเรื่องหนึ่งเรื่องใดกรรมการมีสิทธิขอดูหรือตรวจเอกสารที่เกี่ยวข้อง ขอให้ฝ่ายบริหารชี้แจงข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม
  • บริษัทฯ ยังไม่ได้กำหนดนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับจำนวนองค์ประชุมขั้นต่ำ ณ ขณะที่คณะกรรมการจะลงมติในที่ประชุมคณะกรรมการว่าต้องมีกรรมการอยู่ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 66.67 แต่ในทางปฏิบัติบริษัทฯ ได้ดำเนินการเช่นนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้วโดยสามารถพิจารณาได้จากตารางรายชื่อคณะกรรมการบริษัท โดยในปี 2566 มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทรวมทั้งหมด 9 ครั้ง มี 3 ครั้งที่กรรมการทุกคนเข้าร่วมประชุมครบ มี 3 ครั้ง ที่กรรมการจำนวน 15 คน จากทั้งหมด 16 คน เข้าประชุม คิดเป็นร้อยละ 93.75 และมี 1 ครั้งที่กรรมการจำนวน 13 คน จากทั้งหมด 16 คน เข้าประชุม คิดเป็นร้อยละ 81.25 และมี 2 ครั้ง ที่กรรมการจำนวน 14 คน จากทั้งหมด 15 คน เข้าประชุมคิดเป็นร้อยละ 93.33
  • ในการประชุมแต่ละครั้งที่ประชุมได้มีการซักถามฝ่ายจัดการและมีการใช้ดุลยพินิจที่รอบคอบ มีการอภิปรายและแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระและโปร่งใส โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม และกรรมการผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องที่พิจารณาโดยนัยสำคัญต้องออกจากห้องประชุมในระหว่างพิจารณาเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ประธานกรรมการยังได้จัดสรรเวลาให้ที่ประชุมอย่างเพียงพอเพื่อให้กรรมการได้ร่วมกันอภิปรายปัญหาและแนวทางแก้ไข และยังได้มีการเชิญผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในวาระที่นำเสนอเพื่อให้สารสนเทศรายละเอียดเพิ่มเติมจากประเด็นซักถามและเป็นโอกาสที่ทำให้รู้จักผู้บริหารระดับสูงสำหรับใช้ประกอบการพิจารณาแผนการสืบทอดงานอีกด้วย
  • หลังประชุมคณะกรรมการ เลขานุการบริษัทเป็นผู้จัดทำรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษรที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน ทั้งผลการประชุมและความเห็นกรรมการ และจัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการไว้ที่หน่วยงานเลขานุการบริษัท เพื่อให้กรรมการหรือผู้เกี่ยวข้อง มีสิทธิสามารถเรียกดูข้อมูลหรือตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายในบริษัทฯ ให้ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการอย่างเคร่งครัด
  • บริษัทฯ ได้จัดหาที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาให้ความเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมแก่คณะกรรมการบริษัทในบางกรณี โดยบริษัทฯ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

รายชื่อคณะกรรมการบริษัทและการเข้าร่วมประชุุมของกรรมการในปี 2566
(จำนวนครั้งที่่เข้าประชุุมในช่วงที่เป็นกรรมการ)

รายชื่อกรรมการ ตำแหน่ง ประชุมคณะกรรมการ
(9 ครั้ง)
ประชุมคณะกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร (1 ครั้ง) ผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี
(1 ครั้ง)
1. ศ. (พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช กรรมการอิสระ 9/9 1/1 1/1
2. พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ** กรรมการอิสระ 6/6 - 1/1
2. พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์*** กรรมการอิสระ 1/1 - -
3. นายผดุง เดชะศรินทร์ กรรมการอิสระ 9/9 1/1 1/1
4. นายปรีดี บุญยัง กรรมการอิสระ 9/9 1/1 1/1
5. นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธ์ กรรมการอิสระ 9/9 1/1 1/1
6. ศ. (พิเศษ) ดร. กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ กรรมการอิสระ 8/9 1/1 1/1
7. นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ 7/9 - 1/1
8. นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์* รองประธานกรรมการ 8/9 - 1/1
9. นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ 7/9 1/1 0/1
10. นายธานินทร์ บูรณมานิต* รองประธานกรรมการ 9/9 - 1/1
11. นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการ 9/9 1/1 1/1
12. นายอำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์* กรรมการ 9/9 - 1/1
13. นายณรงค์ เจียรนนท์ กรรมการ 7/9 1/1 1/1
14. นายประเสริฐ จารุพนิช กรรมการ 9/9 1/1 1/1
15. นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล* กรรมการ 9/9 - 1/1
16. นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล* กรรมการ 9/9 - 1/1

* หมายถึง กรรมการที่เป็นกรรมการบริหาร
** พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ลาออกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566
** พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566

การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ

บริษัทฯ ได้จัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานและทบทวนผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการชุดย่อยเป็นประจำทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้กรรมการของบริษัทฯ ได้มีการพิจารณาทบทวนผลงาน ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในระหว่างปีที่ผ่านมา อันจะช่วยให้การทำงานของคณะกรรมการมีประสิทธิผลมากขึ้นเพราะทราบถึงความรับผิดชอบของตนได้ชัดเจนและยังเป็นการช่วยปรับปรุุงความสัมพันธ์ระหว่างคณะกรรมการบริษัทกับฝ่ายจัดการ การประเมินผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการบริษัทแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการทั้งคณะ (As a whole) และการประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเอง (Self-assessment)

การจ่ายค่าตอบแทนกรรมการรายบุคคล

คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ เป็นผู้พิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนกรรมการก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาเห็นชอบและนำเสนอต่อที่ประชุุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติเป็นประจำทุกปี โดยมีการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกันและอยู่ระดับที่จูงใจและรักษากรรมการที่มีคุณภาพ

(1) ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน

ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ได้อนุมัติค่าตอบแทนประจำรายเดือนของกรรมการในอัตราเดิมตามที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2565 ได้อนุมัติไว้เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 และยังคงเป็นอัตราเดิมตั้งแต่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2559 ได้อนุมัติไว้เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559 ดังนี้

1. กรรมการอิสระที่เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อย120,000 บาท/คน
2. กรรมการอิสระที่เป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อย100,000 บาท/คน
3. กรรมการอิสระที่ไม่ได้เป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อย80,000 บาท/คน
4. ประธานกรรมการ120,000 บาท/คน
5. รองประธานกรรมการ100,000 บาท/คน
6. กรรมการ60,000 บาท/คน

โดยกรรมการอิสระที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยหลายคณะจะได้รับค่าตอบแทนที่อัตราสูงสุดเพียงคณะเดียว นอกจากนี้ทีประชุุมผู้ถือหุ้นยังได้อนุุมัติเงินโบนัสให้กรรมการในอัตราร้อยละ 0.50 ของเงินปันผลที่มีการจ่ายให้ผู้ถือหุ้น โดยประธานกรรมการจะเป็นผู้พิจารณากำหนดจำนวนเงินที่เหมาะสมเพื่อจัดสรรให้กรรมการแต่ละคน

ค่าตอบแทนกรรมการบริษัทตั้้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2566 (หน่วย : บาท)

ชื่อกรรมการ ตำแหน่ง ค่าตอบแทน โบนัส รวม
1. ศ. (พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช กรรมการอิสระและประธานกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล 1,440,000 2,847,000 4,287,000
2. พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กรรมการอิสระ ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล 960,000 2,847,000 3,807,000
2. พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์* กรรมการอิสระ ประธานกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล 204,000 - 204,000
3. นายผดุง เดชะศรินทร์ กรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ กรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล และกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ 1,440,000 2,847,000 4,287,000
4. นายปรีดี บุญยัง กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ 1,200,000 2,372,000 3,572,000
5. นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธ์ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ 1,200,000 2,372,000 3,572,000
6. ศ. (พิเศษ) ดร. กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ กรรมการอิสระ 960,000 1,898,000 2,858,000
7. นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ 1,440,000 2,847,000 4,287,000
8. นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ รองประธานกรรมการ 1,200,000 2,372,000 3,572,000
9. นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการและกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ 1,200,000 2,372,000 3,572,000
10. นายธานินทร์ บูรณมานิต รองประธานกรรมการ 1,200,000 2,372,000 3,572,000
11. นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการ 720,000 1,423,000 2,143,000
12. นายอำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์ กรรมการ กรรมการบริหาร และกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล 720,000 1,423,000 2,143,000
13. นายณรงค์ เจียรนนท์ กรรมการ 720,000 1,423,000 2,143,000
14. นายประเสริฐ จารุพนิช กรรมการ 720,000 1,423,000 2,143,000
15. นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล กรรมการ 720,000 1,423,000 2,143,000
16. นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการ 720,000 1,423,000 2,143,000
รวม 16,764,000 33,684,000 50,448,000

* พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกรยน 2566 แทน พล.ต.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ที่ลาออกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566

นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ ทั้งคณะยังได้รับค่าตอบแทนจากบริษัทย่อย (คือสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์) ในฐานะกรรมการตรวจสอบ ในปี 2566 รวม 38,000 บาท

ค่าตอบแทนกรรมการบริษัทย่อย (บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2566 (หน่วย : บาท)

รายชื่อกรรมการ ตำแหน่ง ค่าตอบแทน โบนัส รวม
1. นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ 1,860,000 2,455,000 4,315,000
2. ศ. (พิเศษ) ประสพสุข บุญเดช กรรมการอิสระและกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน 1,380,000 1,745,600 3,125,600
3. นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ รองประธานกรรมการที่ 1 และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน 1,260,000 1,663,100 2,923,100
4. นายธานินทร์ บูรณมานิต รองประธานกรรมการที่ 2 1,200,000 1,104,500 2,304,500
5. นายอำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์ กรรมการและกรรมการกำกับดูแลกิจการ 1,260,000 1,663,100 2,923,100
6. นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการ 1,200,000 1,584,100 2,784,100
7. นายณรงค์ เจียรนนท์ กรรมการ 1,200,000 1,584,100 2,784,100
8. นายประเสริฐ จารุพนิช กรรมการ 1,200,000 1,584,100 2,784,100
9. นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล กรรมการ 1,200,000 1,584,100 2,784,100
10. นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการ 1,200,000 1,584,100 2,784,100

(2) ค่าตอบแทนอื่นของกรรมการ

บริษัทฯ ได้จัดทำประกันความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารระดับสูง (Directors' and Offices' Liabilities Insurance) ที่ทุนประกันจำนวน 40 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา คิดเป็นเบี้ยประกันประมาณ 3.2 ล้านบาทต่อปี

ค่าตอบแทนผู้บริหารระดับสูง

นโยบายและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูง

คณะกรรมการบริษัทกำหนดนโยบายค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรมและสอดคล้องกับภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ และเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญอิสระจากภายนอกมาเป็นที่ปรึกษาในการหาข้อมูลและให้คำแนะนำในการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้บริหารระดับสูงเพื่อเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติ โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ ประกอบดังนี้

  • ผลประกอบการของธุรกิจโดยพิจารณาจากตัวชี้วัดทางธุรกิจด้านต่างๆ ที่ได้มีการกำหนดไว้
  • เปรียบเทียบผลประกอบการของธุรกิจกับอุตสาหกรรมเดียวกัน
  • ความสามารถในการพัฒนาธุรกิจและการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจให้ดีขึ้นในแต่ละปี
  • การเปรียบเทียบอ้างอิงอัตราการจ่ายค่าตอบแทนจากอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน

ตั้งแต่ปี 2561 คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติหลักเกณฑ์และตัวชี้วัดในการจ่ายค่าตอบแทนผู้บริหารระดับสูงในรูปแบบของบำเหน็จพิเศษ เพื่อสร้างแรงจูงใจและผลักดันให้ผู้บริหารสามารถบรรลุเป้าหมายใหม่ที่เพิ่มจากแผนการจ่ายโบนัสปัจจุบันโดยพิจารณาจากการบรรลุเป้าหมาย 3 ประการ คือ ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) และคะแนน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) ซึ่งเป็นการประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท

ตัวชี้วัดประสิทธิภาพและผลการดำเนินงานที่สำคัญของ CEO และผู้บริหาร

ประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) ครอบคลุมตัวบ่งชี้ต่อไปนี้ :

  • ผลตอบแทนทางการเงิน เช่น ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA), กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีเงินได้ (EBIT) กำไรสุทธิ (NET PROFIT) เป็นต้น
  • ตัวชี้วัดทางการเงินที่สัมพันธ์กันเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น การเติบโตของธุรกิจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
  • ตัวบ่งชี้ที่ไม่ใช่ทางการเงินอื่นๆ (เช่น มุมมองของลูกค้า มุมมองกระบวนการทางธุรกิจภายใน และมุมมองการเรียนรู้และการเติบโต)

ผลการดำเนินงานมุ่งเป้าไปที่การสร้างประสิทธิภาพและความสามารถในการบริหารจัดการและความเป็นผู้นำในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลต่อความยั่งยืนในระยะยาวของบริษัท

ความสำเร็จของ KPI เหล่านี้สะท้อนถึงผลตอบแทนสำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหาร มีกระบวนการกำหนดค่าตอบแทนที่โปร่งใสและสมเหตุสมผล ประกอบด้วยเงินเดือน โบนัส และบำเหน็จพิเศษ

บริษัทประเมินผลการปฏิบัติงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้บริหาร และพนักงานเป็นประจำทุกปีโดยใช้ตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักขององค์กร (KPI) ประเมินประสิทธิภาพตาม : ตัววัดซึ่งสนับสนุน KPI ขององค์กรและการมอบหมายพิเศษ (70%) และพฤติกรรมหลัก (30%) ซึ่งประเมินตามพฤติกรรมของวัฒนธรรม Harmony & CP six core values

ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพองค์กร

มุมมอง ตัวชี้วัดประสิทธิภาพองค์กรปี 2566
มุมมองทางการเงิน (รายได้ & กำไร)
  • กำไรสุทธิ
  • กำไรขาดทุน
  • ตัวชี้วัดทางการเงินอื่น ๆ สำหรับผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE)
มุมมองของลูกค้า (ฐานลูกค้า & การมีส่วนร่วม)
  • ลูกค้าทั้งหมดตามแพลตฟอร์มการขาย
  • ความพึงพอใจของลูกค้า
มุมมองกระบวนการภายใน (ประสิทธิภาพขององค์กร)
  • การเติบโตของธุรกิจ
  • ประสิทธิภาพการดำเนินงาน
  • อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถาวร
  • ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนด้านทรัพยากรบุคคล
มุมมองด้านความยั่งยืน (ความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย)
  • ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน : คะแนน DJSI (ผลดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ Operational Eco-Efficiency  ผลดำเนินการด้านสังคม อาทิ สถิติด้านความปลอดภัย LTIFR , Fatality และ ผลดำเนินการด้านธรรมาภิบาล)
  • เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือที่สุด

ค่าตอบแทนรวมของกรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่บริหาร (ผู้บริหารระดับสูง)

(1) ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน

ปี รายการ จำนวน (คน) จำนวน (ล้านบาท)
2566 เงินเดือน โบนัส และบำเหน็จพิเศษ 14 484.366
2565 เงินเดือน โบนัส และบำเหน็จพิเศษ 17 474.950
2564 เงินเดือน โบนัส และบำเหน็จพิเศษ 18 429.425
2563 เงินเดือน โบนัส และบำเหน็จพิเศษ 16 403.098
2562 เงินเดือน โบนัส และบำเหน็จพิเศษ 17 561.393
ปี 2566 ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงินสะสมของทั้งบริษัท34,463 ล้านบาท
ค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงคิดเป็นร้อยละของค่าตอบแทนทั้งบริษัทร้อยละ 1.39

(2) ค่าตอบแทนอื่น

  • บริษัทฯ ได้จัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยบริษัทฯ ได้สมทบในอัตราส่วนร้อยละ 2 ของเงินเดือน โดยในปี 2566 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับผู้บริหารระดับสูงจำนวน 6.530 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2565, 2564 และปี 2563 บริษัทฯ จ่ายเงินสมทบจำนวน 8.990 ล้านบาท 8.521 ล้านบาท และ 6.642 ล้านบาท ตามลำดับ
  • บริษัทฯ ได้จัดให้มีโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (EJIP) เพื่อเป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและร่วมทำงานกับบริษัทฯ ในระยะยาว โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 มีระยะเวลาของโครงการ 3 ปี (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2569) ผู้บริหารที่สามารถเข้าร่วมโครงการ EJIP ได้จะต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยบริษัทฯ จะหักเงินเดือนผู้บริหารร้อยละ 5 และบริษัทฯ จะจ่ายเงินสมทบอีกในอัตราร้อยละ 80 ของยอดที่หักจากเงินเดือนผู้บริหารเช่นกัน ในปี 2566 (ตุลาคม - ธันวาคม) บริษัทฯ ได้จ่ายเงินสมทบให้กับผู้บริหารระดับสูงที่เข้าร่วมโครงการเป็นเงินรวม 2.383 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2563 (มกราคม - พฤษภาคม) ปี 2562 และปี 261 บริษัทฯ จ่ายเงินสมทบจำนวน 4.286 ล้านบาท 12.205 ล้านบาท และ 11.604 ล้านบาท ตามลำดับ

หมายเหตุ: บริษัทฯ หยุุดพักโครงการ EJIP ครั้งที่ 3 ตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 จนถึงสิ้นสุดโครงการ เพื่อบรรเทาภาระให้แก่พนักงานที่เข้าร่วมโครงการ EJIP อันเนื่องมาจากสถานการณ์ของโรคติดเชื้อโควิด-19

นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

นโยบายการกำกับดูแลกิจการดาวน์โหลด
แนวปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการ ดาวน์โหลด
กฎบัตรคณะกรรมการบริษัท ดาวน์โหลด
กฎบัตรคณะกรรมการตรวจสอบ ดาวน์โหลด
กฏบัตรคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหากรรมการ ดาวน์โหลด
กฏบัตรคณะกรรมการกำกับดูแลความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล ดาวน์โหลด
แนวปฏิบัติตามแผนธุรกิจขององค์กรให้ถูกต้องตามกฎหมาย บมจ.ซีพี ออลล์ ดาวน์โหลด
แนวทางปฏิบัติตามนโยบายกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้า ดาวน์โหลด
นโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ดาวน์โหลด

เว็บไซต์ cpall.co.th มีการเก็บคุกกี้ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายการใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า