“ซีพี ออลล์” จับมือพันธมิตรนานาชาติด้านเทคโนโลยี อาทิ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง ไต้หวัน, มหาวิทยาลัยปักกิ่ง จีน, มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์, สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เดินหน้าค่ายเยาวชน Creative AI Camp ปีที่ 3 จากทั่วประเทศผ่านแพลทฟอร์ม Phenomena Work-based Education Learning ต่อเนื่อง 3 เดือน เพิ่มความเข้มข้นการเรียนรู้ด้วยการฝึกทักษะเทคโนโลยีกลุ่ม ABCD ควบคู่ทักษะการออกแบบนวัตกรรม, Design Thinking, และจริยธรรม AI พร้อมเปิดพื้นที่ให้เยาวชนสร้างสรรค์โปรเจ็คท์ต้นแบบ ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืนและ Next Normal
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 แต่บริษัทยังคงตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมมือกับหลายพันธมิตรทั้งไทยและนานาชาติ จัดค่าย Creative AI Camp ปีที่ 3 ขึ้นภายใต้แนวคิด “The Future of AI : The Future of the World” เพื่อให้เยาวชนทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา ได้มีพื้นที่ในการเรียนรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์และมีอิทธิพลต่ออนาคตของโลกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรูปแบบการจัดค่ายในปีนี้ จะยังคงเน้นการจัดการเรียนรู้ต่อเนื่อง 2 เดือนในรูปแบบ Phenomena Work-based Education Learning ผสมผสานการเรียนรู้ผ่าน VDO Conference บนแพลทฟอร์มออนไลน์กับวิทยากรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงจะได้เรียนรู้ด้าน Innovation กับ Professor Che-Wei LIN (Department of Biomedical Engineering) มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง มหาวิทยาลัยระดับท็อปด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีของไต้หวัน ซึ่งเป็นพันธมิตรใหม่ของค่ายในปีนี้ ซึ่งProfessor Che-Wei LINยังเป็น Leader ของทีมที่ขับเคลื่อน AI Talent Incubation ของรัฐบาลไต้หวันประกอบกับ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกงเน้นการทำ AI Innovation อย่างง่ายที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง เห็นผลได้เร็ว
นอกเหนือจากนี้น้องๆ จะได้รับความรู้ทางด้าน Robotic AI ระดับโลกจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอ Associate Professor Dr. Marcelo H. ANG Jr (Department of Mechanical Engineering : Ag Director, Advanced Robotics Centre) มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) และความรู้ทางด้าน AI และ Digital Transformation จาก Associate Professor HAN Shenglong (Department of Information Management) มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (PKU), สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM), บริษัท ไอโนว์พลัส จำกัด, บริษัท แอมเบี้ยน ซอฟท์ จำกัด, บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เดอะซันเพล็กซ์เอ็นจิเนียร์ริ่งแอนด์ซอฟต์แวร์ จำกัด และ นายโสภณะ ประจงแสงศรี ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI โซลูชั่น อาทิเทค, นางสาวปาลิตา ลาภานุพัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์ และ นายรัชชยุต ภูวัชร์เตชากร ที่ปรึกษาสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทยโดยแต่ละองค์กรจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ความรู้ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 เดือนแก่เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน ก็สามารถมาเรียนรู้หรือประชุมงานแบบออฟไลน์ร่วมกับทีมที่ CAI CLUB BY CP ALL ชุมชนและพื้นที่การเรียนรู้ด้าน AI ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ณ อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น 4 และ ชั้น 14A ถนนสีลม โดยภายใน CAI CLUB BY CP ALL จะมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ มีผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษา และมีมาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ การผนึกกำลังกับพันธมิตรที่หลากหลายทำให้หัวข้อการเรียนรู้ในปีนี้เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกเหนือจากการเพิ่ม EQ ให้เยาวชนผ่านการบูรณาการวิธีสร้างสรรค์ AI ผ่านปรัชญาการเล่นหมากล้อม (Creative AI Convergence by Go Philosophy) และการเพิ่ม IQ ผ่านความรู้เกี่ยวกับกลุ่มเทคโนโลยี ABCD อันประกอบด้วย AI (ปัญญาประดิษฐ์), Blockchain (บล็อกเชน), Cloud และ Digital Data แล้ว ปีนี้ยังได้ผสมผสานทักษะที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานวัตกรรม (Innovation) อาทิ การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) การคิดโดยคำนึงถึงมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-centric) จริยธรรมด้าน AI เพื่อเป็นรากฐานให้เยาวชนพัฒนา AI ไปใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ หลากหลายวิธี และตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
ด้าน รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล หนึ่งในที่ปรึกษากรรมการจัดค่าย Creative AI Camp กล่าวว่า ในโลกยุคใหม่มีทักษะที่จำเป็นต่อเยาวชนอยู่ 5 ด้านหลักๆ ได้แก่ 1.ทักษะด้านภาษา 2.ทักษะด้านเทคโนโลยี 3.ทักษะการปรับตัวภายใต้ความเปลี่ยนแปลง 4.ทักษะการตัดสินใจ 5.ทักษะการแก้ปัญหา ค่าย Creative AI Camp ถือเป็นค่ายที่ช่วยส่งเสริมเยาวชนในการพัฒนาทักษะ 5 ด้านดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้เยาวชนจากหลากหลายพื้นฐาน หลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เข้ามาเรียนรู้ร่วมกันอย่างเท่าเทียม
“วันนี้ เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI เข้ามามีบทบาทต่อทั้งภาคธุรกิจ ภาคการแพทย์ ภาคการศึกษา ตลอดจนการใช้ชีวิตประจำวันของคนในสังคม ค่ายนี้จึงมีความสำคัญในการพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้ปรับตัวได้ทันกับความเปลี่ยนแปลง สร้างและรู้และใช้ประโยชน์กับเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึง AI ให้ได้อย่างเต็มที่” รศ.ดร.พินิติ กล่าว
ขณะที่ ดร.พงส์ศักดิ์ โหลิมชยโชติกุล ผู้อำนวยการ สำนักปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารโครงการ กล่าวว่า ทุกปีค่ายจะเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รวมกลุ่มกันสร้างสรรค์ไอเดียและชิ้นงานต้นแบบ (Prototype) ด้าน AI ขึ้น โดยโจทย์ในปีนี้จะเป็นการออกแบบชิ้นงานที่สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ รวมถึงการออกแบบชิ้นงานที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตปกติแห่งอนาคตหรือ Next Normal
“ด้วยการเรียนรู้ การทำงานแบบหลากหลายวัฒนธรรม หรือ Multi-Culture การได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่โดดเด่นเรื่องการปั้นคน AI หรือ AI Talent และองค์ความรู้ที่อัดแน่นทั้งพื้นฐานและเชิงลึก เราเชื่อมั่นว่าเยาวชนในค่าย Creative AI Camp ปีที่ 3 นี้ จะเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่สามารถสร้างต้นแบบนวัตกรรม AI ได้อย่างน่าสนใจ และเป็นอีกหนึ่งเมล็ดพันธุ์ด้าน AI ที่สร้างสรรค์ผลงานที่มีประโยชน์ต่อสังคมได้ในอนาคต” ดร.พงส์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับค่าย Creative AI Camp จัดขึ้นภายใต้ปณิธานองค์กร “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” มุ่งเน้นให้เหล่าเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติ ได้พัฒนาทักษะความสามารถจนกลายเป็น “คนพันธุ์ AI หัวใจโกะ” (CreativeAIness) วิถีความเป็นมนุษย์ AI สร้างสรรค์ สามารถสร้างสรรค์ AI ผสมผสานปรัชญาหมากล้อม เพื่อประโยชน์ของสังคม และกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนโลกในอนาคต