ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ SME เพราะไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นธุรกิจของตัวเอง หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการเปิดธุรกิจทำอะไรสักอย่างนั้นไม่ยาก แค่หาสินค้ามาขาย หาตลาด ทำโปรโมชั่นเพียงเล็กน้อย ส่งสินค้าถึงมือลูกค้า รับเงินแล้ว ก็จบปิ๊ง!!! แต่ในความเป็นจริง ถ้าทุกอย่างง่ายดายขนาดนี้ก็คงเกิดกระแสธุรกิจ SME ล้นตลาด เพราะการจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง แค่อย่างที่เคยทำกัน อาจไม่พออีกต่อไปแล้ว คุณต้องรู้จักตัวเอง รู้จักตลาด รู้ใจผู้บริโภค และต้องดูสภาวะโอกาสต่างๆถึงจะเติบโตได้ แล้วคุณล่ะ! อยากทำธุรกิจ SME เตรียมตัวดีแล้วรึยัง ??? ก่อนอื่นเลยต้อง …
1.เริ่มจากการรู้จักตัวเอง ต้องรู้ว่าชอบอะไร รักอะไร เช่น ถ้าคุณชอบแมว ชอบมาก รู้ว่าแมวพันธ์นี้ลักษณะเป็นยังไง ต้องเลี้ยงดูแบบไหน ขั้นต่อไปคือ
2.รู้จักตลาด ในตลาดแมว แมวพันธ์ไหนที่คนชอบเลี้ยง คนซื้อบ่อย ราคาประมาณเท่าไหร่ คนนิยมไปซื้อแมวที่ไหน คนที่ซื้อแมวช่วงอายุประมาณเท่าไหร่ หรือกระทั่งคุณอาจจะไปฝังตัวอยู่กับเพจแมว กลุ่มคนรักแมว กลุ่มซื้อขายแมว ฝังตัวเป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มเพื่อศึกษาพฤติกรรมการซื้อขายของกลุ่มเป้าหมายคุณ(Customer profile) หรือที่เรียกว่า ศึกษาตลาดเชิงลึก เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายตามความต้องการของลูกค้าขั้นต่อไปคือการ
3.ศึกษาคู่แข่ง ไม่ว่าจะฟาร์มแมวต่างๆที่ลงขาย ข้อดี ข้อเสียของแต่ละเจ้าเป็นอย่างไรเพื่อนำมาเลือกใช้กับธุรกิจของคุณ ว่าท้ายที่สุดแล้วคุณควรลงขายเมื่อไหร่ ราคาประมาณเท่าไหร่ที่ลูกค้าพร้อมจ่าย พันธ์ไหนที่ลูกค้านิยม แพคเกจเสริมอะไรที่คุณพอทำได้ รวมทั้งเพิ่มความแตกต่างและความน่าเชื่อถือจากลูกค้า เช่น จากการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าในกลุ่มแมว คุณพบว่า แมวพันธ์เปอร์เซียขายง่าย เพราะราคาไม่สูง ลูกค้านิยมและพร้อมจ่าย คุณอาจจะมีกิมมิคคือเปิดจองแมวให้วางมัดจำก่อน 1,000 ที่เหลือจ่ายวันรับแมว เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่จ่ายหนักจนเกินไป และอาจจะตั้งโพสต์ช่วงเวลาปลายเดือนเพราะศึกษามาว่ากลุ่มลูกค้าคุณคือวัยทำงาน ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือปลายเดือนเพราะเงินเดือนออก อาจจะเพิ่มความพิเศษไปส่งแมวถึงที่ สร้างความสะดวกสบายกับลูกค้าเพราะคู่แข่งของคุณ คือลูกค้าจะต้องไปถึงฟาร์มขาย แต่ของคุณคือคุณไปหาลูกค้า แก้ปัญหาเรื่องไม่เห็นแมวตัวจริงๆด้วยการอัดคลิปวิดิโอให้ลูกค้าแทนได้หรือเปล่า เป็นต้น
สรุปง่ายๆ…
หากคุณอยากทำธุรกิจสักอย่าง ต้องศึกษาและสำรวจตัวเองว่าชอบอะไร> ศึกษาคู่แข่ง ปัจจัยภายนอก ในด้านของโอกาส > ศึกษากระบวนการคิด การตัดสินใจซื้อของลูกค้า เคล็ดไม่ลับอีกอย่างหนึ่ง คือ สินค้าที่นำมาขายควรมีต้นทุนที่ต่ำกว่าของคู่แข่งหรืออย่างน้อยๆต้องเท่ากันแต่ถ้าคุณไม่ได้เน้นทราคา ก็ต้องทำคุณภาพสินค้าให้ดี สร้างภาพลักษณ์ของสินค้าให้คุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าจะต้องจ่ายส่วนอีกเรื่องที่ลืมไม่ได้ คือหน้าร้านขายของที่ในอดีตคำว่า “หน้าร้าน” หมายถึง การเช่าพื้นที่ขายของ หรือการเปิดร้าน เพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันมีพื้นที่ออนไลน์มาช่วยทำตลาดและขายของเพิ่มขึ้น เช่น เว็บไซต์,Facebook,Line ทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สร้างการรับรู้ได้มากขึ้น ซึ่งคุณอาจจะมี ทั้งหน้าร้านแบบดั้งเดิมและหน้าร้านดิจิตอลแบบยุคใหม่ ที่บุกไปทุกแพลตฟอร์มของออนไลน์เพื่อเป็นผลดีแก่การตลาด
แต่สุดท้ายแล้ว อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะผลิตสินค้าหรือบริการใดๆก็ตาม “อย่าทำสิ่งที่อยากทำเพียงอย่างเดียว แต่จงทำในสิ่งที่ลูกค้าอย่างได้” นั่นคือต้องหาจุดตรงกลางร่วมกัน ทั้งสิ่งที่คุณชอบและตลาดต้องการแล้วผลิตมันออกมา เชื่อเถอะว่ายังไงก็ไปได้สวย จบแบบแฮปปี้แน่นอนนนน
ยังไม่จบเพียงเท่านี้! สำหรับเพือนๆ คนไหนที่กำลังริเริ่มหรือสนใจที่จะทำ SME ล่ะก็ ทีมงานมีเรื่องราวของ SME ที่จำหน่ายกับเราแล้วประสบความสำเร็จมาฝากกันค่ะ อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆ ได้ สามารถเข้าไปอ่านได้เลยที่ www.cpall.co.th/sme