นายพลิษศร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการเพิ่มความเข้มแข็งให้สมาชิก เปิดเผยว่า โครงการ Business Accelerator เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทย บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) / สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) / บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) / บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Lotus) / บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) / บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank)
โดยในโครงการจะมีผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจ Modern Trade ต่าง ๆ มาให้คำแนะนำผู้ประกอบการ เน้นไปที่ปัญหาของ SMEs ไทย ที่มีความต้องการนำสินค้า ขยายเข้าสู่ช่องทางขาย แต่ต้องพบกับอุปสรรคต่างๆ เนื่องจากยังไม่ได้ประเมินความพร้อมของธุรกิจตนเอง หอการค้าไทยและหน่วยงานพันธมิตร ได้มองเห็น pain point ตรงจุดนี้ จึงได้จับมือกันสานต่อโครงการ Business Accelerator เพื่อเตรียมความพร้อม และมอบองค์ความรู้ให้ SMEs ไทย ได้เข้าสู่ช่องทางขายอย่างยั่งยืน
“ในโครงการ 2 รุ่น ที่ผ่านมา เราได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการไปมากกว่า 80 ราย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ในรุ่นที่ 3 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก ทางหอการค้าไทยและพันธมิตร จึงเห็นพ้องต้องกันว่าตลอดระยะเวลา 4 เดือนของโครงการ เราจะเน้นเนื้อหาที่เข้มข้น ผ่านกิจกรรม Workshop ในรูปแบบ Offline ให้มากขึ้น รวมถึงการ Coaching and Mentoring โดยผู้เชี่ยวชาญเป็นรายสินค้า จะนำมาสู่การพัฒนาและยกระดับธุรกิจอย่างยั่งยืน” นายพลิษศร์ กล่าว
ด้าน นายพรวิทย์ พัชรินทร์ตนะกุล รองอธิการบดีอาวุโส สายวิชาการ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs เป็นอย่างมาก ทางซีพี ออลล์ และสถาบันการจัดการปัญญภิวัฒน์ (PIM) จึงเห็นชอบร่วมกันในการสานต่อโครงการ Business Accelerator ร่วมกับหอการค้าไทย และพันธมิตร เพื่อช่วยเหลือ SMEs ไทย ในการพัฒนาองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ สร้าง GDP ให้กับประเทศเป็นสัดส่วนที่สำคัญ ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ
“สำหรับโครงการ Business Accelerator รุ่นที่ 3 หน่วยงานพันธมิตรยังคงสนับสนุน ร่วมแรงร่วมใจให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและเสริมความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ โดยได้พัฒนาหลักสูตรใหม่เพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการทั้ง 44 ราย ที่ผ่านการสัมภาษณ์ให้เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการที่ได้รับการเลื่อนระดับจาก รุ่นที่ 2 อีกจำนวน 37 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 81 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าโครงการของเรา เน้นการพัฒนาที่เหมาะสมกับระดับความพร้อมของผู้ประกอบการ แม้ตอนสมัครเข้ามาจะยังไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่มากพอ ขอเพียงให้มีความตั้งใจ เราและพันธมิตร พร้อมที่จะจัดหลักสูตรเพื่อพัฒนาท่านให้สามารถเตรียมตัวเข้าสู่ตลาด Modern Trade ในอนาคตได้” นายพรวิทย์ กล่าว